ReadyPlanet.com


โรคนอนไม่หลับ สาเหตุที่นอนไม่หลับ อันตรายจากการนอนไม่หลับ และวิธีการแก้ไข


 ปัญหาการนอนไม่หลับ นอนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ความจำแย่ลง อารมณ์หงุดหงิด ทำให้ร่างกายตอบสนองได้ช้าลง ทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้เห็นภาพหลอน เกิดภาวะความดันสูง ทำให้เป็นเบาหวานและเป็นโรคอ้วนได้ นอกจากนั้นคนที่อดนอน จะทำให้มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจมากกว่าคนที่ได้นอนปกติถึง 4.5 เท่า

 

เราใช้เวลานอนหลับมากถึง 1 ใน 3 ของทั้งชีวิต แล้วเราเข้าใจเหตุผลที่ต้องนอนหรือเปล่า

การทดลองและผลของการอดนอน

ในช่วงปี 1963-1964 Randy Gardner ทำการทดลองอดนอนเป็นเวลาถึง 264 ชั่วโมง (หรือ 11 วัน) เพื่อดูว่าร่างกายจะตอบสนองอย่างไรบ้าง ในวันที่ 2 ตาไม่สามารถโฟกัส หลังจากนั้นสูญเสียความสามาถในการจับต้องสิ่งของรอบๆ ตัว วันที่ 3 อารมณ์หงุดหงิด ไม่สามารถให้ความร่วมมือ สมองเริ่มเบลอพูดคุยไม่รู้เรื่อง วันที่ 4 เริ่มเกิดอาการเลอะเลือน

การทดลองในครั้งนั้นเป็นแค่ระดับงานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน หลังจากรู้เรื่องการทดลอง William Dent นักวิจัยจาก Stanford ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการทดลองด้วย การทดลองในครั้งนั้นไม่มีการใช้ยา ไม่ใช้คาเฟอีนหรือสารกระตุ้นเพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัว ทำให้ยากที่จะตื่นตัวอยู่ได้ในตอนกลางคืน จึงต้องจัดให้มีคนคอยคุยหรือทำกิจกรรมด้วยกันตลอดเวลา

เพื่อความปลอดภัยของ Randy Gardner ทำให้ต้องตรวจร่างกายเป็นประจำ ซึ่งก็ไม่พบสัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ยกเว้นแค่อาการสับสน หลงลืมและเห็นภาพหลอน

ในวันสุดท้ายของการทดลอง มีผู้คนมากมายออกมาให้กำลังใจที่สามารถทำลายสถิติเดิมได้คือ 260 ชั่วโมง หลังจากนั้นเค้าพูดคุยกับนักข่าว เข้ารับการตรวจร่างกายอีกครั้ง และนอนหลับยาวถึง 14 ชั่วโมง 40 นาที

หลายปีผ่านไป Randy Gardner สามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยที่ไม่มีผลข้างเคียงด้านร่างกายหรือจิตใจ แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว หากไม่ได้หลับเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลเสีย ทำให้กระทบต่อสมดุลของฮอร์โมนส์ เกิดอาการเจ็บป่วย หรือในกรณีร้ายแรงที่สุดอาจเสียชีวิตได้

เหตุผลที่เราต้องนอนหลับ

ในแต่ละคืนผู้ใหญ่ต้องได้นอนหลับเป็นเวลา 7-8 ชั่วโมง ส่วนเด็กก็ต้องการนอนมากถึง 10 ชั่วโมง เราเริ่มรู้สึกง่วงนอนเมื่อร่างกายส่งสัญญาณให้รู้ว่าถึงเวลาหลับ โดยจะทำงานสัมพันธ์กับสัญญาณจากภายนอกเช่นความมืด เคมีที่เกี่ยวข้องกับการหลับในร่างกายเริ่มหลั่งออกมา เช่น Adenosine และ Melatonin ทำให้หายใจช้าลง ชีพจรเต้นช้าลง กล้ามเนื้อผ่อนคลาย พร้อมที่จะส่งเราเข้านอน

ในช่วงตอนกลางวัน Adenosine จะสะสมมากขึ้น และทำให้เราง่วงและอยากนอน แต่คาเฟอีนสารกระตุ้นที่อยู่ในเครื่องดื่มชาหรือกาแฟ จะขัดขวางไม่ให้ Adenosine จับกับตัวรับ โดยโมเลกุลคาเฟอีนจะเข้าไปจับกับตัวรับแทน ทำให้ร่างกายยังคงตื่นตัวอยู่ได้ สล็อต

ร่างกายเผาผลาญพลังงานจากอาหาร ส่งพลังงานและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ในทุกซอกทุกมุมของร่างกาย โดยเฉพาะในสมองที่แม้จะมีน้ำหนักเพียง 2% แต่ใช้พลังงานมากถึง 1 ใน 4 ของพลังงานทั้งหมด

ปัญหาอย่างหนึ่งของร่างกายที่ต้องจัดการให้ดีคือ ของเสียที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญพลังงานจากอาหาร ร่างกายจะต้องมีวิธีจัดการกับของเสียเหล่านั้นออกไป ร่างกายจะมีระบบน้ำเหลือง มีเครือข่ายของท่อน้ำเหลืองที่เชื่อมโยงครอบคลุมทั่วร่างกาย คอยจัดการโปรตีนและของเสียที่สะสมอยู่ในช่องว่างระหว่างเซลล์ แล้วส่งเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อทำลาย

แต่ระบบน้ำเหลืองจะไม่ครอบคลุมสมอง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะสมองเป็นอวัยวะที่ต้องใช้พลังงานมาก ก็ต้องมีของเสียเกิดขึ้นมากเช่นกัน แต่ในสมองกลับไม่มีระบบน้ำเหลืองแบบเดียวกับที่พบในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

สมองมีวิธีจัดการกับของเสียโดยการใช้ของเหลวที่เรียกว่า Cerebrospinal fluid หรือ CSF ซึ่งจะถูกเติมเข้าไปที่ช่องว่างในสมอง ของเสียที่อยู่ภายในสมองจะถูกกำจัดออกมาพร้อมกับ CSF เข้าสู่กระแสเลือด คล้ายๆ กับระบบน้ำเหลืองที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

กระบวนการกำจัดของเสียในสมองจะไม่ได้ทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่จะทำงานก็ต่อเมื่อร่างกายหลับเท่านั้น โดยสมองจะเริ่มหดตัวลงเพื่อทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเซลล์มากขึ้น ทำให้ของเหลวไหลผ่านได้ดีและล้างของเสียออกไปจากสมองได้เร็ว



ผู้ตั้งกระทู้ mii (lelemimi888-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-07-13 11:13:58 IP : 1.2.178.241


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2015 All Rights Reserved.